Musique Concrète ผสานเสียงธรรมชาติเข้ากับจังหวะแปลกประหลาดของเครื่องอิเล็กทรอนิกส์

Musique Concrète ผสานเสียงธรรมชาติเข้ากับจังหวะแปลกประหลาดของเครื่องอิเล็กทรอนิกส์

musique concrète เป็นผลงานชิ้นเอกของ Pierre Schaeffer คีตกวีและนักทฤษฎีดนตรีชาวฝรั่งเศส ผู้บุกเบิกแนวเพลงดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง Schaeffer คิดค้นแนวคิด " musique concrète" ขึ้นมาโดยใช้เทคนิคการบันทึกและตัดต่อเสียงจากแหล่งกำเนิดจริง เช่น เสียงเครื่องจักร เสียงธรรมชาติ หรือแม้กระทั่งเสียงของมนุษย์ แล้วนำมาจัดเรียงและผสานเข้าด้วยกันเพื่อสร้างผลงานดนตรีที่ไม่เหมือนใคร

“Musique Concrète” เป็นผลงานที่โดดเด่นในยุคสมัยนั้น เพราะมันท้าทายความคิดเดิม ๆ เกี่ยวกับดนตรี โดย Schaeffer ไม่ได้ใช้โน้ตดนตรีหรือเครื่องดนตรีกlasik แบบดั้งเดิม แต่เลือกที่จะใช้เสียงจากโลกจริงมาสร้างสรรค์บทเพลง

ตัวอย่างของ musique concrète ที่โด่งดังที่สุดคือผลงาน “Étude aux Chemins de Fer” หรือ “Study for Railways” ซึ่ง Schaeffer สร้างขึ้นในปี 1948 ผลงานชิ้นนี้สร้างจากเสียงบันทึกที่ Schaeffer แอบไปบันทึกบนสถานีรถไฟและสายรถไฟ

Schaeffer เริ่มต้นด้วยการบันทึกเสียงของขบวนรถไฟที่วิ่งผ่านสถานี รถไฟรางเดี่ยว และเครื่องจักรในสถานี จากนั้นเขาตัดต่อเสียงเหล่านี้โดยใช้เทคนิคการเรียงลำดับ การซ้อนทับ และการปรับเปลี่ยนความเร็ว เพื่อสร้างลูปและจังหวะดนตรีที่แปลกประหลาด

“Étude aux Chemins de Fer” เป็นผลงานดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ยุคแรก ๆ ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง เป็นต้นแบบให้กับศิลปิน musique concrète รุ่นต่อ ๆ มา เช่น Karlheinz Stockhausen, Pierre Boulez และ Luigi Nono

**

**

องค์ประกอบของ “Étude aux Chemins de Fer”**

องค์ประกอบ อธิบาย
เสียง Schaeffer ใช้เสียงบันทึกจากสถานีรถไฟและสายรถไฟ เช่น เสียงหวูดรถไฟ, เสียงล้อรถไฟ, เสียงเครื่องจักร และเสียงผู้โดยสาร
เทคนิคการตัดต่อ Schaeffer ใช้เทคนิคการตัดต่อเสียง เช่น การเรียงลำดับ, การซ้อนทับ, การเปลี่ยนแปลงความเร็ว และการย้อนกลับ เพื่อสร้างจังหวะและลูปดนตรีที่น่าสนใจ
โครงสร้าง “Étude aux Chemins de Fer” ไม่มีโครงสร้างแบบดั้งเดิมเช่น verse-chorus-verse แต่ Schaeffer สร้างความตื่นเต้นด้วยการสลับเปลี่ยนเสียงและจังหวะอย่างไม่คาดคิด

**

**

อิทธิพลของ musique concrète**

musique concrète มีอิทธิพลอย่างมากต่อวงการดนตรีสมัยใหม่ โดยเฉพาะในแนวเพลง experimental music, electronic music และ avant-garde music. Schaeffer ได้เปิดโลกทัศน์ใหม่ให้กับนักดนตรีและผู้ฟังด้วยการนำเสนอเสียงจากโลกจริงในรูปแบบของบทเพลง

  • การเกิดขึ้นของแนวเพลงอิเล็กทรอนิกส์: musique concrète เป็นแนวคิดพื้นฐานที่นำไปสู่การพัฒนานาเทคโนโลยีดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ เช่น synthsiser, sampler และ DAW (Digital Audio Workstation)

  • การท้าทายความหมายของดนตรี: musique concrète ทำลายกรอบเดิม ๆ ของดนตรี โดยใช้เสียงที่ไม่ใช่เสียงดนตรีแบบดั้งเดิมมาสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ

  • การสำรวจเสียงในชีวิตประจำวัน: Schaeffer สอนให้ผู้คนเห็นคุณค่าของเสียงในชีวิตประจำวัน และนำมาใช้เป็นส่วนหนึ่งของงานศิลปะ

“Étude aux Chemins de Fer” เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่า musique concrète สามารถสร้างสรรค์ผลงานดนตรีที่น่าสนใจและไม่เหมือนใครได้ โดย Schaeffer สามารถนำเสนอความงามและความซับซ้อนของเสียงธรรมชาติในรูปแบบใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน

หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์ทางดนตรีที่แตกต่างจากเดิม ลองฟัง “Étude aux Chemins de Fer” และสัมผัสกับโลกของ musique concrète ดูสิ.