The Number of the Beast : แสดงพลังความโหดเหี้ยมของเมทัลกับลีลาเมโลดีที่ไพเราะอย่างน่าประหลาด

“The Number of the Beast” เป็นเพลงที่ถูกปล่อยออกมาในปี 1982 โดยวงไอคอนแห่งเฮฟวีเมทัล Iron Maiden ซึ่งถือเป็นผลงานชิ้นเอกของวงและได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในเพลงเฮฟวีเมทัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล เพลงนี้สร้างความประทับใจด้วยริฟฟ์กีตาร์อันหนักแน่น โซโล่กีตาร์อันไพเราะ และเนื้อร้องที่เต็มไปด้วยภาพที่น่าจดจำเกี่ยวกับปีศาจและลัทธิ
Iron Maiden ก่อตั้งขึ้นในปี 1975 ที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยมีสมาชิกผู้ก่อตั้งคือ สตีฟ แฮร์ริส (Steve Harris) มือกีตาร์เบส ซึ่งเป็นผู้อยู่เบื้องหลังแนวทางดนตรีของวง
ในช่วงเริ่มต้น Iron Maiden มีการเปลี่ยนแปลงสมาชิกค่อนข้างบ่อย แต่ความคิดริเริ่มของแฮร์ริสยังคงเป็นแกนนำของวง จากนั้นพวกเขาก็ได้พบกับนักร้อง รอนนี่ เจมส์ ดิโอ (Ronnie James Dio) ซึ่งมีเสียงร้องอันทรงพลังและสามารถถ่ายทอดเนื้อเพลงที่ซับซ้อนได้อย่างชัดเจน และในปี 1980 พวกเขาได้ต้อนรับ ब्रูส ไดกิ้นสัน (Bruce Dickinson) เข้าร่วมวง
การมาถึงของไดกิ้นสันเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับ Iron Maiden การร้องอันทรงพลังของเขารวมกับทักษะการแต่งเพลงที่ยอดเยี่ยมและความสามารถในการสร้างภาพบนเวทีทำให้ Iron Maiden ขึ้นไปอยู่ในตำแหน่งวงเฮฟวีเมทัลชั้นนำ
“The Number of the Beast” ถือเป็นผลงานชิ้นที่สองของวงภายใต้สังกัด EMI Records และเป็นอัลบั้มแรกที่มี Dickinson ร้องนำ เพลงนี้ถูกปล่อยออกมาในเดือนมกราคมปี 1982 ในฐานะซิงเกิ้ล
เนื้อร้องของ “The Number of the Beast” เขียนโดย Steve Harris และ Bruce Dickinson โดยได้รับแรงบันดาลใจจากนวนิยายเรื่อง “Paradise Lost” ของ John Milton ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับการลุกขึ้นสู้ของเทวดาที่ถูกเนรเทศ
เพลงนี้เล่าถึงความคิดเห็นของมนุษย์เกี่ยวกับความชั่วร้ายและศาสนา และนำเสนอในรูปแบบที่ทำให้ผู้ฟังต้องสงสัย เนื้อเพลงมีเนื้อหาที่ซับซ้อนและเต็มไปด้วยภาพที่น่าจดจำ
“The Number of the Beast” เริ่มต้นด้วยการเล่นริฟฟ์กีตาร์ที่หนักแน่นและไพเราะ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ Iron Maiden จากนั้น Dickinson ก็เข้ามาร้องนำด้วยเสียงร้องอันทรงพลัง และเพลงก็ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง
โซโล่กีตาร์โดย Dave Murray และ Adrian Smith เป็นจุดเด่นของเพลงนี้ โดยทั้งสองได้แสดงฝีมือที่ยอดเยี่ยมและสร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ฟัง เพลงนี้ยังมีการเปลี่ยนแปลงจังหวะและโทนเสียงที่หลากหลาย ซึ่งทำให้ผู้ฟังไม่รู้สึกเบื่อ
“The Number of the Beast” ได้รับการตอบรับอย่างดีจากทั้งแฟนเพลงและนักวิจารณ์ดนตรี มันกลายเป็นหนึ่งในเพลงเฮฟวีเมทัลที่ได้รับความนิยมสูงสุดตลอดกาล และยังคงได้รับการเล่นอยู่ทั่วโลก
ความหมายของ “The Number of the Beast”
เนื้อเพลงของ “The Number of the Beast” มีความหมายซ่อนเร้นและน่าตีความ เพลงนี้พูดถึงหัวข้อต่างๆ เช่น
-
ความชั่วร้าย: เนื้อเพลงกล่าวถึงปีศาจและความชั่วร้ายในโลก
-
ศาสนา: เพลงนี้ตั้งคำถามเกี่ยวกับศาสนาและบทบาทของพระเจ้า
-
อำนาจ: เนื้อเพลงแสดงให้เห็นถึงอำนาจของความชั่วร้ายและวิธีที่มันสามารถครอบงำมนุษย์
-
ความหวาดกลัว: “The Number of the Beast” สร้างบรรยากาศที่น่าสยดสยองและทำให้ผู้ฟังรู้สึกหวาดกลัว
เนื้อเพลงนี้ได้รับการตีความในหลายๆ แง่ บางคนเห็นว่ามันเป็นเพลงที่ส่งเสริมลัทธิบูชาปีศาจ ในขณะที่คนอื่นๆ มองว่าเป็นการวิพากษ์ศาสนาและอำนาจ
Iron Maiden ได้ปฏิเสธว่าเพลงนี้มีเจตนาร้าย พวกเขากล่าวว่าเนื้อเพลงเป็นเพียงเรื่องราวสมมติ และไม่ควรนำไปตีความในเชิงสาเหตุ
อิทธิพลของ “The Number of the Beast”
“The Number of the Beast” มีอิทธิพลอย่างมากต่อวงดนตรีเฮฟวีเมทัลและเมทัลอื่นๆ เพลงนี้เป็นแรงบันดาลใจให้กับนักดนตรีหลายคนและช่วยขยายฐานแฟนเพลงของเฮฟวีเมทัลไปทั่วโลก
เพลงนี้ยังได้รับการปกครองโดยศิลปินคนอื่นๆ มากมาย รวมถึง:
- Metallica
- Slayer
- Megadeth
สรุป
“The Number of the Beast” เป็นผลงานชิ้นเอกของ Iron Maiden เพลงนี้แสดงให้เห็นถึงความสามารถของวงในการแต่งเพลงที่หนักแน่น โซโล่กีตาร์อันไพเราะ และเนื้อร้องที่น่าสนใจ “The Number of the Beast” เป็นหนึ่งในเพลงเฮฟวีเมทัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล และยังคงเป็นที่ชื่นชอบของแฟนเพลงทั่วโลก